ความกลัวหรือความวิตกที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของเราเป็นหลัก
อาจซ่อนไว้ในรูปแบบของความทรงจำเก่าๆ ที่มีมานานหรือเกิดขึ้นจากความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน หากเราจมอยู่แต่กับความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน หากเราจมอยู่แต่กับความคิดที่มีฝ่ายเดียว เรื่องเหล่านั้นก็จะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดไป
มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเกิดตวามรักชอบพอกันหลังจากคบหาดูใจกันนานพอสมตวร ฝ่ายชายจึงได้ไปสู่ขอหญิงสาวแต่งงาน อยู่ต่อมาไม่นานฝ่ายหญิงก็ล้มป่วยอย่างหนัก อาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง เธอรู้ตัวเองว่าคงไม่รอดแน่นอน จึงพูดกับสามีว่า
"น้องรักพี่สุดประมาณได้ ถ้าน้องเป็นอะไรไป ขอร้องพี่อย่างหนึ่งได้ไหม คือพี่อย่าแต่งงานไหมนะ ถ้าพี่ผิดสัญญาที่ให้ไว้ น้องจะมาหลอกหลอนไม่มีที่สี้นสุด"
"พี่ให้สัญญาจ้ะ" ฝ่ายชายรับคำ
หลังจากร่ำลากันด้วยความอาลัยรักสักครู่ ภรรยาก็จากไปอย่างไมมีวันกลับ
ฝ่ายชายรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเมียรักได้ประมาณ ๓ เดือน อยู่ต่อมาเขาก็พบรักใหม่กับหญิงสาวคนหนึ่ง และด้วยความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องการสร้างชีวิตครอบครัว ชายหนุ่มจึงได้ขอหมั้นหญิงสาวไว้ก่อนตามธรรมเนียม
หลังจากการหมั้นผ่านไป ก็มีปรากฎการณ์อันน่าสพรึงกลัวเกิดขึ้น เพราะหลังจากที่เขาหมั้นกับหญิงสาวคนใหม่ ผีภรรยาก็ปรากฎตัวให้เขาเห็นทุกคืน เธอต่อว่าชายหนุ่มที่ไม่รักษาสัญญา
และรู้สึกว่าเธอจะเป็นผีที่ฉลาดเอาการ เพราะไม่ว่าชายหนุ่มและคู่มั่นจะมีความลับอะไร เธอจะรู้และสามารถบรรยายได้อย่างละเอียด เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้เข้า ทำให้ชายหนุ่มขวัญหนีดีฝ่อใจไม่อยู่กับตัวเพราะความกลัวต่อผีภรรยาเก่าของตน
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงแนะนำให้เขาไปปรึกษาอาจารย์เซนรูปหนึ่งที่พำนักอยู่ใกล้หมู่บ้าน ชายหนุ่มจึงไปเล่าให้ท่านฟังโดยละเอียด และขอคำแนะนำที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ ฝ่ายอาจารย์เซนจึงกล่าวว่า
"ผีภรรยาของคุณช่างฉลาดจริงๆ นะ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือให้อะไรแก่คู่หมั่น เธอรู้ไปหมดทุกอย่าง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าเธอปรากฏตัวอีก ให้พูดกับเธอว่าถ้าเธอรู้ทุกอย่าง ลองตอบคำถามสักข้อได้ไหม ถ้าเธอตอบได้ ให้บอกว่าจะถอนหมั้นและจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิต"
"คำถามอะไรท่านอาจารย์ ?" ชายหนุ่มถามความสงสัย อาจารย์เซนจึงแนะนำว่า "เจ้าจงหยิบถั่วเหลืองขึ้นมากำมือหนึ่ง แล้วถามผีภรรยาว่าในกำมือมีถั่วกี่เม็ด ถ้าเธอตอบได้แสดงว่าเป็นผีจริง แต่ถ้าตอบไม่ได้ แสดงว่าเป็นเพียงมโนภาพที่หลอนอยู่ในจิตสำนึกของคุณเท่านั้น เมื่อคำตอบปรากฏชัดเจนแล้ว ผีภรรยาเก่าจะไม่มารบกวนอีก"
หลังคำแนะนำจากอาจารย์เซนเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง เพราะคืนนั้นผีภรรยาปรากฏตัวขึ้นอีกเช่นเคย ชายหนุ่มจึงได้กล่าวชมในความฉลาดของเธอ ฝ่ายผีภรรยาก็กล่าวตอบอย่างรู้ทันว่า
"แน่นอน ! และฉันรู้ด้วยว่าวันนี้พี่ไปพบพระมา"
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ชายหนุ่มได้กำเมล็ดถั่วเหลืองขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วถามผีภรรยาว่า
"ถ้ารู้มากขนาดนี้ เธอตอบได้ไหมว่า ในกำมือนี้มีถั่วเหลืองกี่เม็ด ?"
พอมาถึงคำถามนี้ ผีภรรยาผู้แสนฉลาดถึงกับอึ้งกิมกี่ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่า ผีที่มาหลอกหลอนเขาทุกคืนคือความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่ปรากฏว่ามีผีภรรยามาพบเขาอีกเลย
ข้อคิด...
ความกลัวหรือความหวาดวิตกที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของเราเป็นหลัก อาจซ่อนไว้ในรูปแบบของความทรงจำเก่าๆ ที่มีมานาน หรือเกิดขึ้นจากความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน หากเราจมอยู่แต่กลับความคิดที่มีฝ่ายเดียว เรื่องเหล่้านั้นก็จะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดไป แต่หากรู้จักกำหนดรู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติ เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเพียงมโนภาพที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แล้วก็จะสลายตัวไปในเวลาที่เร็ว
และรู้สึกว่าเธอจะเป็นผีที่ฉลาดเอาการ เพราะไม่ว่าชายหนุ่มและคู่มั่นจะมีความลับอะไร เธอจะรู้และสามารถบรรยายได้อย่างละเอียด เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้เข้า ทำให้ชายหนุ่มขวัญหนีดีฝ่อใจไม่อยู่กับตัวเพราะความกลัวต่อผีภรรยาเก่าของตน
เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันอดเป็นห่วงไม่ได้ จึงแนะนำให้เขาไปปรึกษาอาจารย์เซนรูปหนึ่งที่พำนักอยู่ใกล้หมู่บ้าน ชายหนุ่มจึงไปเล่าให้ท่านฟังโดยละเอียด และขอคำแนะนำที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในครั้งนี้ ฝ่ายอาจารย์เซนจึงกล่าวว่า
"ผีภรรยาของคุณช่างฉลาดจริงๆ นะ ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือให้อะไรแก่คู่หมั่น เธอรู้ไปหมดทุกอย่าง เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน ถ้าเธอปรากฏตัวอีก ให้พูดกับเธอว่าถ้าเธอรู้ทุกอย่าง ลองตอบคำถามสักข้อได้ไหม ถ้าเธอตอบได้ ให้บอกว่าจะถอนหมั้นและจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิต"
"คำถามอะไรท่านอาจารย์ ?" ชายหนุ่มถามความสงสัย อาจารย์เซนจึงแนะนำว่า "เจ้าจงหยิบถั่วเหลืองขึ้นมากำมือหนึ่ง แล้วถามผีภรรยาว่าในกำมือมีถั่วกี่เม็ด ถ้าเธอตอบได้แสดงว่าเป็นผีจริง แต่ถ้าตอบไม่ได้ แสดงว่าเป็นเพียงมโนภาพที่หลอนอยู่ในจิตสำนึกของคุณเท่านั้น เมื่อคำตอบปรากฏชัดเจนแล้ว ผีภรรยาเก่าจะไม่มารบกวนอีก"
หลังคำแนะนำจากอาจารย์เซนเรียบร้อยแล้ว ชายหนุ่มจึงเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง เพราะคืนนั้นผีภรรยาปรากฏตัวขึ้นอีกเช่นเคย ชายหนุ่มจึงได้กล่าวชมในความฉลาดของเธอ ฝ่ายผีภรรยาก็กล่าวตอบอย่างรู้ทันว่า
"แน่นอน ! และฉันรู้ด้วยว่าวันนี้พี่ไปพบพระมา"
ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น ชายหนุ่มได้กำเมล็ดถั่วเหลืองขึ้นมาหนึ่งกำมือ แล้วถามผีภรรยาว่า
"ถ้ารู้มากขนาดนี้ เธอตอบได้ไหมว่า ในกำมือนี้มีถั่วเหลืองกี่เม็ด ?"
พอมาถึงคำถามนี้ ผีภรรยาผู้แสนฉลาดถึงกับอึ้งกิมกี่ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้ ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่า ผีที่มาหลอกหลอนเขาทุกคืนคือความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา ก็ไม่ปรากฏว่ามีผีภรรยามาพบเขาอีกเลย
ข้อคิด...
ความกลัวหรือความหวาดวิตกที่เกิดขึ้นในชีวิต ล้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของเราเป็นหลัก อาจซ่อนไว้ในรูปแบบของความทรงจำเก่าๆ ที่มีมานาน หรือเกิดขึ้นจากความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน หากเราจมอยู่แต่กลับความคิดที่มีฝ่ายเดียว เรื่องเหล่้านั้นก็จะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดไป แต่หากรู้จักกำหนดรู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติ เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเพียงมโนภาพที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่ แล้วก็จะสลายตัวไปในเวลาที่เร็ว
แหล่งอ้างอิง
ชุติปัญโญ.นิทานธรรมะ สอนศิลปะ...การใช้ชีวิต.กทม : ใยไหม,2554
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น