วันเสาร์ที่ 15 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2557

"ความกลัว"เราสร้างขึ้นเอง


         ความกลัวหรือความวิตกที่เกิดขึ้นในชีวิต  ล้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของเราเป็นหลัก
  อาจซ่อนไว้ในรูปแบบของความทรงจำเก่าๆ  ที่มีมานานหรือเกิดขึ้นจากความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน  หากเราจมอยู่แต่กับความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน  หากเราจมอยู่แต่กับความคิดที่มีฝ่ายเดียว  เรื่องเหล่านั้นก็จะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดไป

       มีชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่งเกิดตวามรักชอบพอกันหลังจากคบหาดูใจกันนานพอสมตวร  ฝ่ายชายจึงได้ไปสู่ขอหญิงสาวแต่งงาน  อยู่ต่อมาไม่นานฝ่ายหญิงก็ล้มป่วยอย่างหนัก  อาการน่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง  เธอรู้ตัวเองว่าคงไม่รอดแน่นอน  จึงพูดกับสามีว่า  
     "น้องรักพี่สุดประมาณได้  ถ้าน้องเป็นอะไรไป  ขอร้องพี่อย่างหนึ่งได้ไหม  คือพี่อย่าแต่งงานไหมนะ  ถ้าพี่ผิดสัญญาที่ให้ไว้  น้องจะมาหลอกหลอนไม่มีที่สี้นสุด"
       "พี่ให้สัญญาจ้ะ"  ฝ่ายชายรับคำ  
       หลังจากร่ำลากันด้วยความอาลัยรักสักครู่  ภรรยาก็จากไปอย่างไมมีวันกลับ
       ฝ่ายชายรักษาสัญญาที่ให้ไว้กับเมียรักได้ประมาณ ๓ เดือน  อยู่ต่อมาเขาก็พบรักใหม่กับหญิงสาวคนหนึ่ง  และด้วยความเป็นปุถุชนคนธรรมดาที่ต้องการสร้างชีวิตครอบครัว  ชายหนุ่มจึงได้ขอหมั้นหญิงสาวไว้ก่อนตามธรรมเนียม
       หลังจากการหมั้นผ่านไป  ก็มีปรากฎการณ์อันน่าสพรึงกลัวเกิดขึ้น  เพราะหลังจากที่เขาหมั้นกับหญิงสาวคนใหม่  ผีภรรยาก็ปรากฎตัวให้เขาเห็นทุกคืน  เธอต่อว่าชายหนุ่มที่ไม่รักษาสัญญา
        และรู้สึกว่าเธอจะเป็นผีที่ฉลาดเอาการ  เพราะไม่ว่าชายหนุ่มและคู่มั่นจะมีความลับอะไร  เธอจะรู้และสามารถบรรยายได้อย่างละเอียด  เมื่อเจอเหตุการณ์อย่างนี้เข้า  ทำให้ชายหนุ่มขวัญหนีดีฝ่อใจไม่อยู่กับตัวเพราะความกลัวต่อผีภรรยาเก่าของตน
        เพื่อนบ้านที่อยู่ใกล้กันอดเป็นห่วงไม่ได้  จึงแนะนำให้เขาไปปรึกษาอาจารย์เซนรูปหนึ่งที่พำนักอยู่ใกล้หมู่บ้าน  ชายหนุ่มจึงไปเล่าให้ท่านฟังโดยละเอียด  และขอคำแนะนำที่จะช่วยแก้ไขปัญหาในครั้งนี้  ฝ่ายอาจารย์เซนจึงกล่าวว่า
        "ผีภรรยาของคุณช่างฉลาดจริงๆ  นะ  ไม่ว่าคุณจะทำอะไรหรือให้อะไรแก่คู่หมั่น  เธอรู้ไปหมดทุกอย่าง  เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน  ถ้าเธอปรากฏตัวอีก  ให้พูดกับเธอว่าถ้าเธอรู้ทุกอย่าง  ลองตอบคำถามสักข้อได้ไหม  ถ้าเธอตอบได้  ให้บอกว่าจะถอนหมั้นและจะอยู่เป็นโสดตลอดชีวิต"
         "คำถามอะไรท่านอาจารย์ ?"  ชายหนุ่มถามความสงสัย  อาจารย์เซนจึงแนะนำว่า  "เจ้าจงหยิบถั่วเหลืองขึ้นมากำมือหนึ่ง  แล้วถามผีภรรยาว่าในกำมือมีถั่วกี่เม็ด  ถ้าเธอตอบได้แสดงว่าเป็นผีจริง  แต่ถ้าตอบไม่ได้  แสดงว่าเป็นเพียงมโนภาพที่หลอนอยู่ในจิตสำนึกของคุณเท่านั้น  เมื่อคำตอบปรากฏชัดเจนแล้ว  ผีภรรยาเก่าจะไม่มารบกวนอีก"  
          หลังคำแนะนำจากอาจารย์เซนเรียบร้อยแล้ว  ชายหนุ่มจึงเตรียมรับมือกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น  แล้วเวลาที่รอคอยก็มาถึง  เพราะคืนนั้นผีภรรยาปรากฏตัวขึ้นอีกเช่นเคย  ชายหนุ่มจึงได้กล่าวชมในความฉลาดของเธอ  ฝ่ายผีภรรยาก็กล่าวตอบอย่างรู้ทันว่า
          "แน่นอน  !  และฉันรู้ด้วยว่าวันนี้พี่ไปพบพระมา"
          ในขณะที่กำลังพูดคุยกันอยู่นั้น  ชายหนุ่มได้กำเมล็ดถั่วเหลืองขึ้นมาหนึ่งกำมือ  แล้วถามผีภรรยาว่า  
           "ถ้ารู้มากขนาดนี้  เธอตอบได้ไหมว่า  ในกำมือนี้มีถั่วเหลืองกี่เม็ด  ?"
           พอมาถึงคำถามนี้  ผีภรรยาผู้แสนฉลาดถึงกับอึ้งกิมกี่ไม่สามารถตอบคำถามนั้นได้  ชายหนุ่มจึงเข้าใจว่า  ผีที่มาหลอกหลอนเขาทุกคืนคือความรู้สึกนึกคิดของตัวเอง  ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา  ก็ไม่ปรากฏว่ามีผีภรรยามาพบเขาอีกเลย

          ข้อคิด...
           ความกลัวหรือความหวาดวิตกที่เกิดขึ้นในชีวิต  ล้วนปรากฏขึ้นในจิตใจของเราเป็นหลัก  อาจซ่อนไว้ในรูปแบบของความทรงจำเก่าๆ  ที่มีมานาน  หรือเกิดขึ้นจากความคิดที่เรากำหนดรู้ไม่ทัน  หากเราจมอยู่แต่กลับความคิดที่มีฝ่ายเดียว  เรื่องเหล่้านั้นก็จะทำให้เรารู้สึกสับสนวุ่นวายตลอดไป  แต่หากรู้จักกำหนดรู้เรื่องที่เกิดขึ้นด้วยสติ  เรื่องที่เกิดขึ้นก็จะเป็นเพียงมโนภาพที่เกิดขึ้นเพียงชั่วครู่  แล้วก็จะสลายตัวไปในเวลาที่เร็ว
       

แหล่งอ้างอิง

              ชุติปัญโญ.นิทานธรรมะ  สอนศิลปะ...การใช้ชีวิต.กทม : ใยไหม,2554

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น